ประวัติ คาราเต้ กีฬาศิลปะป้องกันตัวสมัยใหม่

ประวัติ คาราเต้ กีฬาศิลปะป้องกันตัวสมัยใหม่

สำหรับกีฬาศิลปะป้องกันตัวสมัยใหม่อย่าง คาราเต้ ถือว่าเป็นศาสตร์ในการป้องกันตัวอีกแขนงหนึ่งที่คนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากเล่นเป็นกีฬาได้แล้ว ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการปกป้องอันตรายจากสิ่งรอบข้างได้อีกด้วย เหตุผลส่วนหนึ่งที่หลายคนอยากเรียนรู้เกี่ยวกับคาราเต้ น่าจะเป็นเพราะในยุคปัจจุบันมีคดีอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภายในสังคมแวดล้อมไปด้วยบุคคลหลายประเภท ดังนั้นการเรียนรู้ศาสตร์ป้องกันตัวคาราเต้จึงกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว บางทีหากใครสามารถเรียนรู้จนกระทั่งเกิดความเชี่ยวชาญแล้ว สามารถต่อยอดจนกลายเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงได้ด้วยซ้ำไป

กีฬาคาราเต้ มีจุดเริ่มต้นมาจากเมืองโอกินาวะ ภายในประเทศญี่ปุ่น ในช่วงประมาณปี ค.ศ.1921 ที่ผ่านมา โดยศาสตร์การป้องกันตัวคาราเต้เป็นการนำจุดเด่นของการต่อสู้ในแบบฉบับของประเทศจีนและเมืองโอกินาวะผสมผสานเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งกลายเป็นศิลปะการป้องกันตัวคาราเต้ในที่สุด ซึ่งศาสตร์การป้องกันตัวดังกล่าวเริ่มเกิดความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากชาวโอกินาวะอพยพเข้าสู่ตัวเมืองญี่ปุ่น มีการเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้แขนงนี้สู่ชาวญี่ปุ่นโดยทั่วกัน และแผ่อิทธิพลมาสู่ประเทศอื่นๆ ภายในทวีปเอเชีย รวมถึงขึ้นไปสร้างชื่อเสียงในเวทีระดับโลกอีกด้วย

ทราบมาว่าศาสตร์การป้องกันตัวคาราเต้มักจะโดนคนบางส่วนเข้าใจสับสนอยู่เสมอ เพราะบางคนคิดว่าเป็นการต่อสู้ด้วยการใช้มือฟันก้อนอิฐแข็งๆ แต่อันที่จริงแล้วศาสตร์การป้องกันตัวคาราเต้เป็นการต่อสู้ด้วยการใช้อวัยวะหลากหลายส่วนผสมผสานกัน ไม่ว่าจะเป็น กำปั้น เท้า สันมือ ศอก หรือแม้กระทั่งนิ้ว แต่หลังจากที่มีการนำศาสตร์ดังกล่าวมาพัฒนาจนกลายเป็นกีฬา คาราเต้ แล้ว สามารถใช้อวัยวะในการต่อสู้ได้เพียงแค่สองส่วนเท่านั้น ประกอบไปด้วย มือ และเท้า ซึ่งทางด้านของนักกีฬาต้องปฏิบัติตามกฏกติกาอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการทำผิดกติกา อันอาจจะนำมาสู่การเสียคะแนนนั่นเอง ยิ่งหากทำผิดกติกาขั้นร้ายแรงมีสิทธ์โดนโทษแบนเลยทีเดียว

ต้องยอมรับเลยว่าในยุคปัจจุบันกีฬา คาราเต้ ได้รับความนิยมพุ่งทะยานขึ้นมาก ไม่เว้นแม้แต่ภายในประเทศไทยเอง มีการเปิดโรงเรียนสอนการเล่นกีฬาคาราเต้แบบจริงจัง กระทั่งนักเรียนสามารถพัฒนาศักยภาพ พร้อมต่อยอดกลายเป็นนักกีฬาได้สำเร็จ แต่เนื่องจากหลายแห่งมีราคาการเข้าเรียนค่อนข้างแพงไปสักหน่อย จึงอาจจะทำให้กีฬาคาราเต้ยังไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับกีฬาชนิดอื่นๆ รวมถึงขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้โรงเรียนของรัฐบาล และโรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่ไม่ได้มีการสอนหลักสูตรการป้องกันตัวแขนงนี้ให้แก่บรรดาเหล่านักเรียน ดังนั้นหากใครมีความสนใจอยากศึกษาเกี่ยวกับกีฬาคาราเต้จึงต้องพยายามขวนขวายไปเรียนรู้กันเอง